“เฮ้ย มึงอย่าหนีดิว่ะ”
“แน่จริงก็จับให้ได้ดิ”
ผมมองเด็กม.ต้นสองคนที่วิ่งไล่จับกันจนลับสายตา
เสียงหัวเราะที่ดังแว่วจนไม่ได้ยินเสียงทำเอาผมนึกเรื่องราวของตัวเองในอดีต นึกถึงความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นครั้งแรกจากอะไรบางอย่าง…
“ไวท์วันนี้มึงไปนอนบ้านกูป่ะ”
ผมหันไปมองไอ้พอร์ชที่ตอนนี้กำลังหอบหายใจเข้าปอดพร้อมกับล้มตัวลงนอนบนตักผม
“อี้
ไอ้พอร์ชเหม็นเหงื่อ” ผมผลักหัวไอ้พอร์ชออกจากตักทันทีที่รับรู้ได้ถึงความชื้นแฉะที่แปะอยู่ที่ขา
“ไปมั้ย”
ดูมันไม่ลุกออกจากตักผมแล้วยังมีหน้ามาถามเรื่องอื่นอีก
“ขี้เกียจ”
สุดท้ายผมก็ได้ไปแต่ปล่อยเลยตามเลยให้มันนอนเอาเหงื่อแปะขาผมไว้อย่างนั้นก่อนจะยื่นขวดน้ำกับผ้าเย็นไปวางแปะบนหน้ามันแทน
วันนี้ไอ้พอร์ชมีแข่งบาสกับต่างโรงเรียน
มันลากผมมาดูทั้งๆที่ผมกำลังอ่านหนังสือสอบอยู่
“ไปนะ
วันนี้พ่อกับแม่ไม่อยู่ กูอยู่คนเดียว แถมมีอะไรเด็ดๆให้มึงดูด้วย”
"....???...."
“เชื่อดิไวท์มึงไม่เคยได้ชมแน่นอน
หึหึ”
“เออๆ
ไปก็ได้” จริงๆผมก็พอจะเดาได้นิดหน่อยนะว่าไอ้อะไรเด็ดๆที่มันพูดถึงคงหนีไม่พ้นเรื่องที่ไอ้พอร์ชไปยืมแผ่นหนังโป๊มาจากไอ้โยเมื่อวันก่อนแน่ๆ
“ดีมากเพื่อเลิฟ”ไอ้หมาพอร์ชพูดพร้อมกับยกมือขึ้นบีบจมูกผมเบาๆ "20นาทีนะ"
มันบอกเวลาปลุกผมเสร็จก็ดึงผ้าเย็นแปะหน้าตัวเองไว้เหมือนเดิม
ลมหายใจสม่ำเสมอบ่งบอกว่าคนที่นอนอยู่บนตักกำลังเข้าสู่ห้วงนิทรา
เราสองคนเรียนอยู่ชั้นม.2แล้วครับ
หลายๆอย่างเปลี่ยนไปมากจากไอ้พอร์ชขี้แกล้งไม่มีใครคบ ตอนนี้มันแทบจะไม่เหลือเค้าเดิมเลยด้วยซ้ำเพราะใครๆก็อยากเป็นเพื่อนมัน
รอบตัวไอ้พอร์ชดูเหมือนจะเปล่งประกายมีแสงจ้าจนบางทีผมเริ่มแสบตานิดๆ
แตกต่างจากผมอย่างเห็นได้ชัดที่นับวันแสงเจิดจ้าที่เคยมีตอนประถมลดเหลือเป็นแค่ดาวเคราะห์น้อยที่วนรอบตัวไอ้พอร์ชเท่านั้น
หลายครั้งที่ผมพยายามปลีกตัวออกจากมัน
แต่ก็เป็นมันอีกนั่นแหละที่มักจะดึงมือผมไปอยู่ข้างๆแล้วบอกเสมอว่าผมเป็นเพื่อนคนสำคัญ
“ไวท์กูสูงขึ้นอีกเซนแล้วนะ”
“ทำไมเป็นงั้นว่ะ
ทั้งๆที่ตอนประถมมึงเป็นแค่ไอ้ตัวเปี๊ยกเองแท้ๆ แต่มึงไม่ต้องห่วงไปนะพอร์ชไม่มีทางที่มึงจะสูงไล่กูแน่นอนไอ้เตี้ย”
ผมเหยียดตามองไอ้เตี้ยที่ตอนนี้ความสูงแทบจะไล่ถึงผมอยู่แล้ว
“หรอคร้าบบบบบ
” ไอ้พอร์ชวิ่งไล่ผมจนถึงบ้าน
“อ่าวเด็กๆ
อย่าวิ่งในบ้านสิลูก”
“แม่อ้อมหวัดดีครับ”
ผมกับไอ้พอร์ชยกมือไหว้แม่อ้อมพร้อมกันก่อนจะเป็นผมที่วิ่งตึงตังขึ้นห้องเพื่อไปอาบน้ำเก็บเสื้อผ้า
“แม้อ้อมวันนี้ให้ไวท์ไปนอนกับพอร์ชนะ”
เสียงไอ้พอร์ชพูดขออนุญาตแม่เพื่อจะชวนผมไปนอนบ้านมัน
“พ่อกับแม่ไปต่างประเทศอีกแล้วหรอ”
“ใช่ครับ”
“งั้นกินข้าวก่อนแล้วค่อยไป”
“คร้าบบบบ”
หลังจากกินข้าวเสร็จผมกับไอ้พอร์ชก็ปั่นจักรยานแล้วปรี่ไปที่บ้านมันด้วยความตื่นเต้น
“ตื่นเต้นไปป่ะไวท์
หึหึ” ไอ้พอร์ชผลักหัวผมอย่างแรงก่อนจะเดินนำผมเข้าไปในบ้าน
มันจัดการล็อคประตูบ้านแล้วดึงผมให้เดินตามมันขึ้นไปบนห้อง
“เปล่าสักหน่อย”
แค่แผ่นหนังโป๊ ถึงกูจะไม่เคยดูแต่กูรู้หรอกน่าว่ามันเป็นแบบไหน
ชิ
“กูอาบน้ำก่อนนะ
อย่าแอบเปิดดูก่อนล่ะ”
“อือ”
ผมพยักหัวหงึกๆให้มันเสร็จก็รื้อกระเป๋าไอ้พอร์ชหยิบแผ่นหนังที่มีรูปผู้หญิงหน้าตาคิคุเหมือนคนญี่ปุ่นใส่ชุดนุ่งน้อยห่มน้อยนั่งอ้าขาด้วยท่าเซ็กซี่
สายตายั่วยวนทำเอาผมกลืนก้อนน้ำลายเหนียวลงคอได้อย่างยากลำบาก
แค่เห็นหน้าปกผมก็รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆแล้ว นี่ถ้าได้เห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวคง...
“อะแฮ่ม..”
เสียงเชี่ยพอร์ชที่เดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่พันรอบเอว
มันส่งสายตากรุ่มกริ่มมาให้ผมเป็นเชิงล้อ
“อะไรกูไม่ได้อยากรู้สักหน่อย”
ผมโยนแผ่นไร้สาระลงบนที่นอนแบบไม่แยแสก่อนจะทำทีเดินไปหยิบการ์ตูนที่เรียงบนตู้มาอ่านเล่น
“กูก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย
ไปนั่งบนเตียงไป กูแต่งตัวเสร็จจะเปิดให้ดู” ผมทำตามคำสั่งไอ้พอร์ชอย่างว่าง่าย
มันเดินไปใส่เสื้อผ้าแล้วหยิบแผ่นหนังใส่เข้าไปในเครื่อง เปิดทีวีแล้วเดินมานั่งลงกับพื้นข้างๆเตียงที่ผมนั่งอยู่
"อ่ะ
เช็ดหัวให้หน่อย"
"อืม"
ผมดึงผ้าผืนน้อยไปไว้ในมือก่อนจะวางแปะไว้บนหัวคนตรงหน้า
จัดการขยี้เบาๆให้มันพร้อมกับตาที่มองไปยังจอทีวี
“อ๊ะ..อา”
เชี่ยมาถึงก็เปิดฉากกันเลยหรอนั่น
“อื้อ
อื้อ...” เขาทำกันอย่างนี้หรอว่ะ
ผมไม่สนใจจะเช็ดหัวให้ไอ้พอร์ชแต่กลับหันไปหยิบผ้าห่มผืนหนาของมาคลุมขาแล้วปิดหน้าตัวเองโผล่เหลือไว้แค่ส่วนของเบ้าตา
ไอ้พอร์ชหันมายิ้มเยาะใส่ผมแล้วหันไปเช็ดศีรษะเอง ใช่สิก็มึงเคยดูบ่อยแล้วนี่พอร์ช
กูเพิ่งจะดู...O_O
“อา..อ๊ะ อ๊ะ”
สายตาที่ไม่ได้ละออกไปจาหน้าจอทีวีกับไอ้พอร์ชที่ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงผมตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
เพราะผมไม่ได้สนใจมากไปกว่าทีวีจอแบนในห้องมัน
“พอร์ช
อย่าบัง...” แม่งแกล้งผมอ่ะมันเบี่ยงตัวเอาหลังมาบังสายตาผมเฉยเลย
“หึหึ”
“เงียบไปเลยสาดดด
=[]=”
“อ๊า อา อิคึ”
อิคึคืออะไรว่ะ แล้วนี่ผมเป็นอะไรไอ้ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน
ความรู้สึกปวดหนึบที่ช่องท้องแบบนี้ มันรู้สึกแปลกๆ ผมนั่งบิดไปบิดมาอยู่บนที่นอน
ยิ่งดูภาพที่อยู่ตรงหน้าก็ยิ่งรู้สึกมากเข้าไปใหญ่ ไอ้ที่อยู่ตรงกลางตัวก็...
พรึ่บ
“มึงทำอะไรของมึงเนี่ย
พอร์ช!!!!” ผมรีบยื้อผ้าห่มที่ไอ้พอร์ชมันดึงออกจากตัวผมเมื่อกี้มาปิดไว้ที่เดิม
“มึงไม่เคยหรอไวท์”
“เคยอะไรว่ะ”
"ช่วยตัวเองไง??”
ช่วยตัวเอง????
ช่วยตัวเองคืออะไรว่ะ???
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
ผมคงทำหน้าเอ๋อใส่ไอ้พอร์ชมากไป
มันเลยหัวเราะขำออกมาเหมือนคนบ้าแบบนั้น
“อะไรของมึงเล่า!!”
ปาหมอนใส่แม่งเลยก็กูไม่รู้นี้หว่าว่าไอ้ช่วยตัวเองที่มึงพูดมันคืออะไร
“มานี่เดี๋ยวกูสอน”
ไอ้พอร์ชดึงมือผมให้เข้ามายืนในห้องน้ำก่อนจะจัดการดึงกางเกงบอลผมลงทันที
ไอ้ผมหรอจะปล่อยให้มันทำอะไรแบบนั้นก็ยื้อกางเกงตัวเองสุดแรงเกิด
“อื้อออ มึงอ่ะ
จะทำไรว่ะไอ้พอร์ช”
“ถ้าไม่ทำมึงก็จะนอนไม่สบายตัวทั้งคืน
เชื่อกูดิ กูธนเทพนะครับ เทพเจ้าแห่งในทุกๆเรื่อง” ยิ้มมุมปากผุดขึ้นราวกับยิ้มเยาะว่าผมนั้นโง่แสนโง่
ไอ้พอร์ชมันเดินมาซ้อนหลังผมก่อนจะค่อยๆถอดกางผมออกช้าๆ
“มึง...”
“เชื่อกูเถอะน่าไวท์..”
เสียงกระซิบข้างหูกับลมหายใจที่รดอยู่ตรงต้นคอทำเอาผมรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าเดิม
ผมหลับรับสัมผัสที่ไอ้พอร์ชส่งมาให้ผมทุกส่วน
ไม่ว่าจะเป็นคำกระซิบกับมือที่กอดเอวผมไว้หลวมๆ
“แต่มันดูน่าอายยังไงไม่รู้...”
“เชื่อกู ไวท์
ลืมตาด้วย...” คำพูดช้าๆเนิบนาบทำให้ผมลืมตาตามคำสั่งมัน “มึงดูนะ น้องชายมึงมันตั้งแบบนี้ แสดงว่ามึงมีอารมณ์ อย่าทำหน้างงดิ
อารมณ์ที่กูพูดถึงคือความต้องการทางเพศ” แล้วที่มันลุกตั้งทุกๆเช้านี่คือกูต้องการ่วมเพศทุกเช้าเลยหรือว่ะไม่น่าใช่นะ
“คิดอะไรของมึงอยู่ล่ะ
จะฟังที่กูสอนไหม”
“เออๆๆ ฟัง หะ
เห้ยย มึงจะทำอะไรน่ะ” ผมโวยวายเสียงดังใส่มันทันทีที่มันทำท่าจะจับไวท์น้อยของผม
“หึ..” มันไม่ฟังคำทัดท้วงผมสักคำแถมยังเอามือมาประคองไวท์สุดที่รักแล้วเริ่มใช้นิ้วเกลี่ยที่ปลายหัว
ขยี้เบาๆแล้วค่อยๆรูดขึ้นลงช้าๆ
“พะ..พอร์ช”
“เป็นไง..”
ลมหายใจที่พ่นอยู่ข้างแก้ม
ผมรู้สึกเลยว่ามันเป็นตัวเร่งเร้าอารมณ์ผมสุดๆ
“กูรู้สึกแปลกๆ..อ๊ะ..อา”
ผมเอื้อมมือไปจับข้อมือไอ้พอร์ชที่กำลังเร่งจังหวะขึ้นเรื่อยๆ
“อื้อ
อื้อ พอร์ช..” ความรู้สึกสุขสมมันแทรกเข้ามาทันทีที่มันขยับข้อมือมากขึ้น
อยากได้ให้มันเร็วกว่านี้
“เร็ว...”
ผมก้มตัวทำท่าจะร่วงลงกับพื้นแต่ยังดีที่มีมืออีกข้างของมันประคองผมไว้อยู่
“อ๊ะ อ๊า
อาาาาาา” ความรู้สึกเหมือนถูกปลดปล่อย
น้ำสีขาวขุ่นไหลเลอะมือคนที่ทาบทับผมอยู่ด้านหลัง
ผมนั่งหอบหายใจหมดแรงอยู่ที่พื้นปรือตามองไอ้พอร์ชที่ตอนนี้มันทำหน้าแปลกๆ
“มึงหน้าแดง...”
“เออไง
กูก็อยากเหมือนกันนี่” มันล้างมือที่อ่างล้างหน้าเสร็จก็หยิบกระดาษทิชชู่ส่งมาให้ผม
“ถ้างั้นเดี๋ยวกูช่วยมึงคืนก็ได้”
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าผมทำเรื่องน่าอายแบบนั้นได้ยังไงT^T แต่จะว่าไปตั้งแต่ตอนนั้นมาความรู้สึกผมที่มีต่อไอ้พอร์ชมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ถึงตอนนี้จะไม่ได้รู้สึกแบบนั้นแล้วก็เถอะ
แอ๊ดดดด
เมื่อเช้าจำได้ว่าล็อคประตูห้องเรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรอว่ะ ผมค่อยๆหย่องเบาๆเดินเข้าไปในห้องตัวเองอย่างเงียบเชียบ ในมือมีกระเป๋าสะพายที่พร้อมจะเตรียมทุ่มฟาดไอ้หัวขโมยที่กำลังนอนหลับอยู่บนที่นอนผม
เอ๋...ขโมยบ้าอะไรว่ะมานอนหลับบนที่นอนกูเนี่ย
พรึ่บ!!!!
“อื้อ...ไวท์”
“ไอ้เชี่ยพอร์ช!!
มึงเข้ามาได้ไงเนี่ย!!!” ผมใช้เท้าเขี่ยสิ่งมีชีวิตที่นอนปรือตาอยู่บนเตียง
มันพยายามยื้อผ้าห่มผมกลับไปเพื่อที่จะเอาห่มต่อ “กูถามว่ามึงเข้ามาได้ไง”
“กูขอกุญแจยามเขามา
เขาจำหน้ากูได้”
“ห้ะ???
แค่นี้เองหรอ” ครั้งที่แล้วไอ้วินมันขอยืมกุญแจกับยามใต้หอ
มันไม่เห็นจะง่ายอย่างนี้เลย
ได้ข่าวว่าไอ้วินต้องสู้รบปรบมือกันเป็นชั่วโมงไอ้ยามหน้าหอก็ไม่ยอมให้
จนสุดท้ายไอ้วินยอมแพ้นั่งรอจนผมมานั่นแหละ
แถมยังบ่นเป็นหมีกินผึ้งเอากุญแจผมไปปั้มแจกจ่ายไอ้เบสไอ้เกมส์ด้วยเผื่อว่ามาครั้งหน้าจะได้ไม่มีเรื่องต่อยตีกับยามอีก
“ก็เปล่า
กูซื้อของกินมาให้เขานิดหน่อย เขาก็เลยยอมน่ะ” ยามที่นี้แม่งเห็นแก่กินฉิบหาย
“แถมเขายังบอกว่าคราวหน้าจะปั้มกุญแจสำรองเผื่อกูด้วยล่ะ”
ไอ้พอร์ชยิ้มแยกเขี้ยว ยักคิ้วหลิ่วตาให้ผมอย่างกวนตีน
“มึงไม่มีบ้านให้กลับหรือไง”
“ไม่อยากกลับว่ะ
กลับไปก็อยู่คนเดียว”
“พ่อกับพี่พัชไปดูงานหรอ”
“อื้อ”
มันพยักหน้าให้ผมนิดหน่อยก่อนจะหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน “ขอผ้าห่มกูคืนนะไวท์” ผ้าห่มกูเถอะพอร์ช
แม่งนอนไม่ได้เกรงใจเจ้าของห้องอย่างกูเลยยยย ผมปล่อยผ้าห่มคืนให้ไอ้พอร์ชแล้วค่อยเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ไวท์...”
“อือ”
“หิวข้าว..”
“....” มึงเห็นหอกูเป็นร้านอาหารข้างทางหรือไงครับธนเทพ
แหมมมม = =
“ไวท์
พอร์ชหิวข้าว”
“....” หน้าด้านอ้อนกูอีก
“น้า”
มันทำตาปริบๆส่งยิ้มหวานอ้อนๆมาให้ผมสุดพลัง
“เออๆ
ข้าวผัดนะ กูขี้เกียจทำเยอะแยะ”
“มึงนี่น่ารักที่สุดอ่ะ”
น่ารักแล้วทำไมมึงไม่เคยคิดจะรักกูเลยว่ะพอร์ช .
เดี๋ยวนะ!?!?
นี่ผมกำลังคิดบ้าบอคอแตกอะไรอยู่เนี่ย =_= โว๊ะ
ทำข้าวผัดดีกว่ากู
ผมเดินออกไปเตรียมของเพื่อทำข้าวผัดให้คุณชายที่ยังนอนขดตัวเหมือนลูกหมาอยู่บนที่นอน
ไอ้พอร์ชไม่มีทีท่าว่าจะขยับก้าวเดินไปที่ไหน หรือแม้แต่น้ำใจจะเดินมาช่วยหยิบจับของให้ก็ไม่มี
แม่ง เห็นแล้วก็หมั่นไส้อยากจะเอาตะหลิวฟาดหน้าสักทีสองที
ทั้งๆที่มันควรจะหนีหายไปจากชีวิตผมตลอดกาล Forever ไม่มีโอกาสได้เจอะเจอกันอีกแล้วแท้ๆ
แต่ฟ้าช่างกลั่นแกล้งผมให้มาเจอกับบุคคลที่ผมเกลียดขี้หน้าอีกจนได้
แถมมันยังมานอนมีความสุขอยู่บนเตียงผมด้วยนี่สิ
“บ่นอะไรว่ะ”
พูดถึงก็มาเลยเมื่อกี้ยังนอนหลับอุตุอยู่บนเตียงไม่ใช่หรือไง
แม่งตายอยากยิ่งกว่าแมลงสาบอีกนะมึงเนี่ย
“สวดบำเพ็ญ
ภาวนาให้สัตว์โลก”
“หรอ
สวดเผื่อกูเปล่า” เสียงที่ใกล้เข้ามารับรู้ได้ว่าไอ้คนที่พูดเมื่อกี้
มันไม่ได้อยู่ไกลจากตัวผมแน่ๆ สัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่างที่วนเวียนอยู่ด้านหลัง “ว่าไง สวดเผื่อกูเปล่า...”
เสียงกระซิบแถวๆใบหู ลมหายใจ กับกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆเหมือนน้ำทะเล
มึงจะมายืนซ้อนหลังกูทำมายยย เชี่ยพอร์ช กูขนลุกกกกกกกT^T
“เออไง
แผ่ส่วนบุญให้มึงด้วย” ผมทำทีไม่สนใจพยายามเคาะกะทะดังโป๊กๆไล่หมาไล่แมวให้มันเลิกมาวนเวียนขอส่วนบุญอยู่ข้างหลังผม
แต่นะคนหน้าด้านหน้าทนอย่างไอ้พอร์ชยิ่งไล่ก็เหมือนยิ่งเรียกให้มันเช้ามาใกล้ๆ
“ไวท์...”
“อะไรของมึงเนี่ยพอร์ช
ปล่อยเอวกู” มายืนข้างหลังไม่พอยังมีหน้ามากอดที่เอวผมอีก
“ไวท์...”
“ไอ้พอร์ชปล่อย!!!”
ผมผลักศีรษะไอ้พอร์ชที่วางแมะลงบนบ่าผมออกจากรังเกียจ
แต่อย่างที่ทุกคนเข้าใจเลยครับชิตก่อนมันเป็นตุ๊กแก
ผลักหัวกลวงๆของมันไม่ไปแล้วมือที่เกาะเอวผมอยู่ยังติดหนึบนิ่งกว่ากาวอีกครับพี่น้อง
“พอร์ช!!!”
“อย่าหายไปไหนอีกนะ”
อ้อมกอดแน่นที่รับรู้ได้ถึงแรงบีบ
แรงสัมผัสที่ทำราวกับกลัวว่าผมจะหายไปไหน
“อย่าไปไหนอีก...”
“....”
“นะ...”
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกอบกู้เอกราชผมได้ในทันทีทันใด
ต้องขอบคุณไอโฟนไอ้พอร์ชที่ทำให้ผมไม่ต้องอยู่ในบรรยากาศอึดอัด
ไอ้พอร์ชหยิบโทรศัพท์หน้าจอลื่นออกจากกระเป๋ากางเกงมองหน้าจอนิดหน่อยก่อนจะเดินเข้าไปคุยในห้อง
มันทำหน้าเครียดเดินวนไปวนมาในห้องเหมือนหนูติดจั่น
ผมไม่รู้ว่าคนปลายสายมีเรื่องอะไร
แต่คนๆนั้นก็ทำเอาไอ้พอร์ชขมวดคิ้วด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวกับผมอยู่ดี
“แล้วเจอกันครับ”
ไอ้พอร์ชกรอกเสียงสุดท้ายเสร็จก็มาสบตากับผมที่ยืนมองมันอยู่ก่อน
เรายืนมองกันผ่านกระจกโดยไม่พูดอะไรพักนึง
ก่อนจะเป็นผมที่เบนสายตาหนีมันมาที่ข้าวผัดตรงหน้า
ส่วนไอ้พอร์ชมันก็เดินไปใส่เสื้อนักศึกษาที่แขวนไว้ในตู้
“พอร์ชเสร็จแล้วจะแดกเลยเปล่า”
ผมยื่นหน้าไปถามไอ้พอร์ชในห้องเห็นมันกำลังเอาเสื้อเข้าในกางเกงอยู่
“เออ ไวท์
กูขอโทษว่ะ เมื่อกี้หลิวโทรมา เห็นบอกว่ามีเรื่องนิดหน่อย กูว่าจะ...”
“ไม่เป็นไรมึงไปเถอะ”
“ขอโทษจริงๆว่ะไวท์”
มันพูดพร้อมกับทำหน้าสำนึกผิด ยกมือไหว้ผมเป็นเชิงขอโทษ
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
“ว่าไงหลิว
แป๊บนึงนะ กูไปก่อนนะมึง ยังไงวันหลังกูมากินแน่นอน”
“เออๆ..แล้วเจอกัน”
ผมยกยิ้มให้ไอ้พอร์ชที่เดินปิดประตูออกไปก่อนจะหันมามองข้าวผัดที่อยู่ในกระทะ
จะแดกยังไงหมดว่ะเนี่ย ทำไว้ตั้งเยอะ
อย่าหายไปไหนอีกนะ
ทำไมมึงไม่ปล่อยกูไปว่ะพอร์ช
ทั้งๆที่รู้ว่ากูเคยชอบมึงมากมายขนาดไหน ทำไมไม่ปล่อยกูไป…
Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr
“ว่าไงวิน”
(สโนวววว มึงอยู่ไหน
หอป่ะ??)
“อืม”
(กูซื้อเค้กมา
ตอนนี้อยู่ใต้หอมึงและ กำลังจะขึ้นไป)
“เออๆ มาดิ
กูทำข้าวผัดเหลือเยอะฉิบหาย มาช่วยกูแดกเลยเชี่ยวิน”
(ฮ่า ฮ่า
กำลังจะขึ้นไปนี่ไงคร้าบบบบเจ้าหญิง)
=_= เจ้าหญิงพร่องงงงงงงงงง
>>>>>>>>>>>>http://writer.dek-d.com/nuoouka/story/viewlongc.php?id=1002915&chapter=3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น